วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

เพลง Alphabet Song


เพลง  Alphabet  Song

Aa    Bb     Cc    Dd   
   
Ee   Ff      Gg    Hh      

Ii      J j      Kk     Ll    
  
Mm   Nn    Oo    Pp  
  
Qq    Rr    Ss    Tt       

Uu   Vv     Ww   Xx  
     
Yy      Zz


Now you  know  your   A  B  C.
Next time  won't  you sing  with  me.

วันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ตัวอักษร A-Z ตัวพิมพ์ใหญ่และตัวพิมพ์เล็ก

Aa    Bb     Cc    Dd   
   
Ee   Ff      Gg    Hh      

Ii      J j      Kk     Ll    
  
Mm   Nn    Oo    Pp  
  
Qq    Rr    Ss    Tt       

Uu   Vv     Ww   Xx  
     
Yy      Zz

วันอังคารที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

Exercise


จงเลือกคำที่กำหนดให้ เขียนเติมลงในช่องว่างให้ถูกต้อง
 
  Her    Do     Today    He      friend       student
   at     speaks     children      meet     like   want
1. They  go  to  school__________07.30.
2. He___________English.
3. I_____________mango.
4. _______you speak  English?
5. She  has  two__________.
6. ________is  Monday.
7. I  want  to __________ her.
8. John  is  a ____________.
9. ___________ book  is  on  the  desk.
10.This  is  my____________, Pat.

วันพุธที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

วิธีเรียนให้เก่ง

1 นาทีแนะวิธีเรียนเก่ง


  ในการเรียนให้เก่งนั้น ต้องอาศัยทักษะต่างๆ และหมั่นฝึกฝน อดทนและขยันอยู่เสมอ ซึ่งขั้นตอนในการปฎิบัติและวางแผนในการเรียนให้เราเรียนเก่งๆนั้น มีขั้นตอนดังนี้
1. การเตรียมตัวก่อนไปโรงเรียน
ข้อคิดนี้สำคัญ และมองข้ามไม่ได้ค่ะ เราต้องรู้จักประมาณตนในการเข้านอนค่ะ โดยปกติแล้วคนที่หลังจากเลิกเรียนแล้ว เรียนพิเศษโดยเฉลี่ยประมาณชั่วโมงครึ่ง กลับบ้านมากินข้าว อาบน้ำ ทำการบ้าน และอ่านหนังสือทบทวน ไม่น่าจะเข้านอนเกิน 5 ทุ่มนะคะ
สาเหตุที่เราเข้านอนเกินเวลา
- เลิกเรียนแล้วเที่ยวเตร่ไม่รีบกลับบ้าน
- มัวแต่เล่นเกมส์ หรืออ่านหนังสือการ์ตูน ซึ่งถ้าทำเพื่อคลายเครียดก็ไม่ควรเกินครึ่งชั่วโมง และไม่ควรทำทุกวัน เพราะจะทำให้เราติดเป็นนิสัย
- เล่น msn เพื่อแชตในเรื่องไร้สาระ จะทำให้เราไม่ดูเวลา ติดเป็นนิสัย
- ดูละครไป ทำการบ้านไป
- การบ้านค้างไว้นานๆ แล้วมารีบทำเมื่อถึงวันที่จะส่งแล้ว
เมื่อเราหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ได้ ก็ขอให้เข้านอนให้ตรงเวลาทุกวันจะได้เกิดความเคยชิน และเมื่อตื่นขึ้นมาตอนเช้า ห้ามหลับต่อ และอย่าลืมรับประทานอาหารเช้าก่อนไปโรงเรียนนะคะ
2. จุดประกายในห้องเรียน
- พยายามเลือกที่นั่งด้านหน้า ใกล้ครูให้มากที่สุด
- ถ้าเลือกที่นั่งไม่ได้ จำเป็นต้องนั่งข้างหลัง ก็ห้ามปรามเพื่อนรอบข้าง อย่าให้เขาชวนคุย เพราะจะรบกวนสมาธิ
- ถ้านั่งริมหน้าต่าง ริมประตู อย่าไปสนใจสิ่งรอบข้าง
- ไม่ต้องกลัวเวลาอาจารย์ถาม ถ้าเราตั้งใจเรียนและเตรียมตัวมาดี จะทำให้เรามีความมั่นใจเวลาอาจารย์ถามคำถาม
- เมื่อมีข้อสงสัยให้รีบยกมือถามอาจารย์ทันที ไม่ต้องกลัวอายเพื่อน อย่าลืมค่ะ "ด้านได้อายอด"ค่ะ
3. หูฟัง ตามอง มือเขียน
- มีสมาธิในการฟัง
- มองสิ่งที่อาจารย์เขียนให้ดูบนกระดาน แล้วรีบจดลงไปในสมุด
- ไม่ควรฟังไป เขียนไป จะทำให้เราพลาดเนื้อหาที่สำคัญๆ เราควรฟังให้เข้าใจก่อนแล้วค่อยบันทึก
4. ชั่วโมงต่อไป ทำไงดี
- อย่าเพิ่งรีบเก็บสมุดบันทึกก่อนค่ะ ให้จดหัวข้อว่าวันนี้เรียนอะไรในสมุดอีกเล่ม เพื่อจะได้กลับไปทบทวนที่บ้าน
- จดโน้ตคำถามสั้นๆไว้ในส่วนที่เรายังไม่เข้าใจ คาบต่อไปจะได้ไม่ลืมถามอาจารย์
- ลืมความเครียด ความกังวลในคาบก่อนหน้านั้นให้หมดสิ้น
5. จุดประสงค์การเรียนรู้ หลักสูตร หรือโครงสร้างเนื้อหา มีความสำคัญ
ถ้าเรารู้จุดประสงค์การเรียนรู้ของวิชานั้นๆ จะทำให้เรามีทิศทางในการเรียน เปรียบเสมือนแผนที่ที่คอยบอกว่า เราควรเดินไปในทิศทางไหนค่ะ และมีส่วนสำคัญให้เราเลือกซื้อหนังสือไว้อ่านเพิ่มเติมด้วย
6. จับประเด็น
- ฟังอาจารย์ให้ดีๆ ตรงไหนอาจารย์เน้นคำ โดยใช้คำพูดที่หนักแน่นขึ้น
- ตรงไหนอาจารย์พูดซ้ำ 2 รอบ
- หัวข้อที่อาจารย์พูดถึงว่า ออกสอบบ่อยๆ
- แนวแบบฝึกหัดที่อาจารย์ให้มาก็บอกใบ้แนวข้อสอบค่ะ
7. สังเกตสไตล์การสอน
- ถ้าอาจารย์ชอบให้ซักถาม ก็เตรียมคำถามไว้ถามล่วงหน้า
- ถ้าอาจารย์ชอบสอนไปเรื่อยๆ ไม่สนใจว่านักเรียนตามทันหรือไม่ ก็ไม่ควรขัดจังหวะ โดยการถามคำถามอาจารย์ก่อน ให้จับประเด็นที่อาจารย์เน้นเอาเอง และค่อยถามอาจารย์นอกเวลา
- ถ้าอาจารย์บรรยายน่าเบื่อ ฟังแล้วง่วงนอน ให้ปรับเปลี่ยนความคิดใหม่ว่า เป็นการฝึกให้นักเรียนเป็นนักจับประเด็น และเป็นการฝึกความอดทนไปในตัว พยายามท้าทายตัวเองว่า ต้องเป็นคนช่างสังเกตให้ได้ เหมือนกำลังเล่นเกมนักสืบ
- อย่ามีอคติกับผู้สอน เพราะจะทำให้การเรียนน่าเบื่อ ซึ่งมีผลต่อคะแนน ความตั้งใจ และความเข้าใจตลอดเทอม
8. เรียนอย่างเข้าใจ หาใช่เพื่อสอบผ่าน
ฟังดูอาจเป็นผลดีที่ขยันเรียนอย่างเอาจริงเอาจัง แต่ความเป็นจริงแล้ว เมื่อสอบผ่านวิชานั้น ก็เป็นอันว่าหน้าที่นั้นสิ้นสุดลงแล้ว ไม่จำเป็นต้องเข้าใจเนื้อหานั้นอีกต่อไป ถ้าต้องเรียนเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง ค่อยไปรื้อฟื้อความเข้าใจเพื่อการสอบออกมาใหม่ นี่เป็นความคิดที่ผิดค่ะ
ความเข้าใจอย่างแตกฉาน จะมีประโยชน์ต่ออนาคต ต่อการดำรงชีพ ถ้าคิดแบบนี้ จะทำให้สามารถอธิบายวิเคราะห์ สรุปเนื้อหาได้อย่างแม่นยำ
เพราะฉะนั้น การเรียนไม่ใช่การท่องจำเพื่อการสอบอย่างเดียว
ติดตาม 1 นาทีแนะวิธีเรียนเก่ง ภาค 2 ได้ในตอนต่อไป
Thanks : หนังสือ 1 นาทีแนะวิธีเรียนเก่ง โดยครูแว่น
นาตาชา : เรียบเรียงใหม่