วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2554

ฝึกอ่านภาษาไทย กลอนดอกสร้อย

            
                        กลอนดอกสร้อย
               
                               เด็กน้อย
     เด็กเอ๋ยเด็กน้อย                                    ความรู้เจ้ายังด้อยเร่งศึกษา
เมื่อเติบใหญ่เจ้าจะได้มีวิชา                      เป็นเครื่องหาเลี้ยงชีพสำหรับตน
มีประโยชน์หลายสถานเพราะการเรียน   จงพากเพียรไปเถิดจะเกิดผล
ถึงลำบากตรากตรำก็จำทน                      เกิดเป็นคนควรหมั่นขยันเอยฯ
                            แมวเหมียว
     แมวเอ๋ยแมวเหมียว                 รูปร่างปราดเปรียวเป็นนักหนา
ร้องเรียกเหมียวๆเดี๋ยวก็มา            เคล้าแข้งเคล้าขาน่าเอ็นดู
รู้จักเอารักเข้าต่อตั้ง                       ค่ำค่ำซ้ำนั่งระวังหนู
ควรนับว่ามันกตัญญู                   พอดูอย่างไว้ใส่ใจเอยฯ
                           
                             นกเอี้ยง
        นกเอ๋ยนกเอี้ยง                             คนเข้าใจว่าเจ้าเลี้ยงซึ่งควายเฒ่า
แต่นกเอี้ยงนั่นเลี่ยงทำงานเบา           แม้อาหารก็ไปเอาบนหลังควาย
เปรียบเหมือนคนทำตนเป็นกาฝาก    รู้มากเอาเปรียบคนทั้งหลาย
หนึ่งงานหนักคอยสมัครงานสบาย      จึงน่าอายเพราะเอาเยี่ยงนกเอี้ยงเอยฯ           

                                     กาดำ
      กาเอ๋ยกาดำ                            รู้จำรู้จักรักเพื่อน
ได้เหยื่อเผื่อแผ่ไม่แชเชือน            รีบเตือนพวกพ้องร้องเรียกมา
ต่างกลุ้มรุมล้อมพร้อมพรัก           น่ารักน้ำใจกระไรหนา
การเผื่อแผ่แน่ะพ่อหนูจงดูกา        มันโอบอารีรักดีนักเอยฯ

                                      มดแดง
      มดเอ๋ยมดแดง                            เล็กๆเรี่ยวแรงแข็งขยัน
ใครกล้ำกลายมาทำร้ายถึงรังมัน    ก็วิ่งพรูกรูกันมาทันที
สู้ได้หรือมิได้ใจสาหัส                  ปากกัดก้นต่อยไม่ถอยหนี
ถ้ารังเราใครกล้ามาราวี                  ต้องต่อตีทรหดเหมือนมดเอยฯ

                                   ช้างพลาย
            ช้างเอ๋ยช้างพลาย          ร่างกายกำยำล่ำสัน
กินไผ่ใบดกตกมัน                     ดุดันโดยหมายว่ากายโต
มนุษย์น้อยนักหนายังสามารถ    เอาเชือกบาศก์คล้องติดด้วยฤทธิ์โง่
อย่าถือดีดังช้างทำวางโต            จะยืนโซติดปลอกไม่ออกเอยฯ

                                  นกกระจาบ
          นกเอ๋ยนกกระจาบ               เห็นใบพงลงคาบค่อยเพียรขน
มาสอดสอยด้วยจงอยปากของตน   ราวกับคนช่างพินิจคิดทำรัง
ช่างละเอียดเสียดสลับออกซับซ้อน   อยู่พักร้อนนอนร่มได้สมหวัง
แม้นทำการหมั่นพินิจคิดระวัง        ให้ได้ดังนกกระจาบไม่หยาบเอยฯ

      

โรคอ้วนคือภัยร้ายของชีวิต



        
                 โรคอ้วนคืออันตรายของคนยุคใหม่

            นายยอร์ช   เยียว    รับมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  ของประเทศสิงคโปร์    แถลงว่าผลการวิจัยของ  ประเทศสิงคโปร์พบว่า  เด็กยิ่งอ้วน ยิ่งมีโอกาสฉลาดน้อย แต่ไม่ใช่ว่าพอจับคนอ้วนเหล่านี้ทำให้ผอมลงแล้วจะฉลาดขึ้น  แต่ความจริงแล้วการปล่อยให้เด็กอ้วนเอาอ้วนเอา มีผลทำให้ไม่กระปรี้กระเปร่า  สติปัญญาทึบ  และไม่มีความมั่นใจในตัวเอง   จึงได้ประกาศให้พ่อแม่ชาวสิงคโปร์ดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อควบคุมน้ำหนักลูกๆ มิฉะนั้นเกาะสิงคโปร์จะเต็มไปด้วยเด็กอ้วน
แต่ฉลาดน้อย
       ขณะที่บ้านเรายังปล่อยให้พ่อแม่ ให้ลูกของตนกินสเต้ก   กินอาหารขยะประเภท น้ำอัดลม  ขนมกรุบกรอบ  ขายกันเกร่อบ้านเมือง  น่าอายชาวสิงคโปร์เสียจริง
       ทำไมความอ้วนของเด็กจึงควบคู่กับความฉลาดน้อย  มีปัจจัย 2  ประการ คือ
       1.เด็กอ้วนมีนิสัยการกินอาหารที่ผิดสัดส่วน
       2.เด็กอ้วนมักไม่ค่อยชอบออกกำลังกาย
     เรามักพบบ่อยๆ ว่า เด็กอ้วนมักไม่ค่อยชอบกินผลไม้  และจากการวิจัยพบว่า เด็กจำนวนไม่น้อยตั้งแต่เกิดมาไม่ยอมกินผักเลย  และไม่แตะต้องผลไม้เลย
     ประการหนึ่งเราควรรู้เพิ่มเติมไว้เลยว่า นอกจากโปรตีนแล้วสมองต้องการเกลือแร่กับวิตามินต่างๆ มีความสำคัญสำหรับการทำงานของเซลล์สมองไม่น้อย  แล้วแหล่งของเกลือแร่กับวิตามินมาจากไหน   ก็ผักผลไม้นั่นเอง
     ดังนั้นเด็กที่กินเนื้อสัตว์อย่างไม่บันยะบันย้ง ด้วยแรงสนับสนุนจากพ่อแม่ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์เปรียบเสมือนการเติมเชื้อเพลิงให้กับเครื่องจักรกลแต่มิได้เติมวิตามินหรือน้ำมันหล่อลื่นเลย ผลคือ เซลล์ของเด็กอ้วนเหล่านี้ ไม่อาจทำงานได้เป็นปกติ โดยเฉพาะเซลล์สมองที่ไวต่อภาวะบกพร่องวิตามินอย่างมาก เด็กเหล่านี้จึงปรากฏอาการฉลาดน้อย  กินจุ  แต่หิวบ่อย  เหตุที่หิวบ่อยเพราะว่าขาดวิตามินซึ่งเป็นจักรกลทางเคมี ไม่ปล่อยพลังงานออกมา กินเนื้อนมไข่เข้าไปเท่าไรก็ไปสะสมเป็นไขมันในพุงกะทิ
            เมื่อขาดพลังงานเจ้าตัวจะรู้สึกหิว แต่หันมาหาของกินผิดๆเข้าไปอีก เป็นวงจรการเกิดความอ้วนแต่สมองไม่โลดแล่น
            ประการต่อมาเด็กอุ้ยอ้ายเหล่านี้ไม่ชอบออกกำลังกายมักทำตัวเป็นนักคอมพิวเตอร์ประเภทเกมกด ซึ่งพ่อแม่ก็ภาคภูมิใจด้วยหวังว่าลูกเป็นอัจฉริยะของโลกยุคไฮเทค  แต่เอาเข้าจริงๆ สิ่งที่เกมกดส่วนใหญ่ให้แก่เด็กคือความเร่งรัดที่แฝงด้วยความรุนแรง เป็นการสร้างความเคร่งเครียดเข้าสู่เด็ก
เด็กที่โตมากับเกมกดจึงมักนิยมใช้กำลังมากกว่าการใช้เหตุผล กลายเป็นนิสัยติดตัวคู่กับความฉลาดน้อยของตน ไม่นานนักเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่โรคทางกายก็มาเยือน  ทั้งโรคไขมันในเลือดสูง   โรคความดันโลหิตสูง  โรคเบาหวาน โรคหัวใจ  และเดินสู่ประตูของโรคมะเร็งร้าย
            ในประเทศอังกฤษ นีล  อาร์มสตรอง  มหาลัยอีซิเตอร์  วิจัยพบว่าเด็กอังกฤษยุคไฮเทคไม่นิยมเล่นฟุตบอล แต่ไปเฝ้าอยู่หน้าจอพร้อมขนมกรุบกรอบ ผลคือเมื่อเจาะเลือดพบว่า เด็กอังกฤษมีไขมันในเลือดสูงถึงร้อยละ  25 ของประชากรเด็ก
            ทำอย่างไรจะเลี้ยงลูกให้ฉลาด ต้องเลี้ยงลูกด้วยความรัก แต่ต้องรู้ไว้ว่าความรักต่างจากการตามใจ ไม่มีทางที่จะเลี้ยงลูกให้ดีด้วยวิธีตามใจรวมทั้งการตามใจเรื่องการกิน
            เลิกได้แล้วกับความภูมิใจกับที่ลูกตัวโตกระปุกลุก  ควรเป็นเรื่องน่าอับอายมากว่าเพราะบ่งบอกถึงดีกรีความฉลาดน้อยที่ใครเห็นใครก็รู้เพราะตัวโตอ้วนฉุแต่ไม่มีกล้ามเนื้อ
            เพราะฉะนั้นควรหยุดกินน้ำอัดลม ขนมกรุบกรอบและการกินนมเยอะๆวันหนี่งไม่ควรกินเกิน 2 แก้ว  หัดมากินผลไม้แทนขนมในซองกันเถอะ  กินผักสม่ำเสมอ ออกกำลังกาย



ศิลปการรักเพื่อนมนุษย์


             รักเพื่อนมนุษย์ให้เป็น    และรักทุกวัน

            ความรักเป็นความรู้สึกที่เบิกบาน  สดชื่น  แจ่มใส  และการสร้างสรรค์ของเราที่มีต่อเพื่อนความรู้สึกเหงา  โกรธแค้น  ใจน้อย  แสนงอนนั้น  ไม่เรียกเป็นความรักหรอก   แต่เป็นโรคของความรักมากกว่า     

                                                 ความรักมนุษย์มีองค์ประกอบดังนี้คือ          
1. ความเข้าใจ     ถ้าจะรักมนุษย์ ต้องเข้าใจมนุษย์ว่าทุกคนมีข้อบกพร่อง และทุกคนไม่เท่าเทียมกัน มีความแตกต่างกันทั้ง
2. การยอมรับ     ต้องรับทั้งส่วนที่ดีที่คุณชอบและส่วนที่ไม่ดีที่คุณไม่ชอบให้ได้ เรามักรับส่วนที่ชอบได้ง่าย ส่วนข้อบกพร่องนั้นจะรับไม่ค่อยได้ คุณต้องทำใจคิดว่าใครที่มีข้อบกพร่องมากก็จะมีความทุกข์จากข้อบกพร่องของเขามากแน่ๆ  เราจะได้ยอมรับตัวเขาในความเป็นจริงของเขาได้ง่ายขึ้น
3.ความเห็นอกเห็นใจ    เมื่อรู้ว่าตัวเขามีทุกข์จากข้อบกพร่องของเขาแล้ว   เราจะเห็นใจเขา   ไม่โกรธแค้นต่อไป
4.ความช่วยเหลือและการให้   เมื่อเห็นอกเห็นใจแล้วก้อยากช่วยเหลือ หรือมีอะไรที่พอจะให้ได้เราก็จะให้  เช่น การให้กำลังใจ  คำแนะนำ  คำชื่นชม  รวมทั้งสิ่งของที่พอจะให้ได้
5.การอภัย   เราสามารถให้อภัยในข้อบกพร่องหรือความผิดของเพื่อนมนุษย์ได้ เพราะเราเข้าใจและยอมรับตามข้อ  1   และข้อ 2 แล้ว 
        นี่แหละคือองค์ประกอบของความรักเพื่อนมนุษย์